วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ผลิตภัณฑ์นาโนที่จะทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น
















ภายในปี 2558 มีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าของการผลิตและวิจัยด้วยเทคโนโลยีนาโนใน
ตลาดโลกจะสูงถึง 2.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่เริ่มเห็นทิศทาง
ความเป็นไปไดในอนาคต ได้แก่ วัสดุเคลือบต่างๆในห้องครัวและยานพาหนะที่ป้องกัน
แบคทีเรียและสิ่งสกปรกและป้องกันรอยขีดข่วน ผนังที่ป้องกันการเขียนข้อความโดย
ไ่ม่ได้รับอนุญาต (anti-graffiti paint) และสามารถป้องกันคลื่นโทรศัพท์มือถือได้
ในพื้นที่ที่ไม่ต้องการ ไททาเนี่ยมไดออกไซด์เป็นตัวอย่างหนึ่งของวัสดุอนุภาคนาโน
ที่มีความหลากหลายในการนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรม ได้แก่ กระจกทำความสะอาด
ตนเอง ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นในปีนี้อย่างต่อเืนื่องจากความต้องการในตลาดที่มากขึ้น
เืรื่อยๆ ในด้านวัสดุองค์ประกอบทางอิเลคโทรนิคส์นั้นวัสดุส่องสว่างด้วยสารอินทรีย์้
(OLEDs) ก็กำลังมาแรงในอุตสาหกรรมด้านการผลิตระบบส่องสว่างและประมวลภาพเช่น
จอแสดงภาพของโทรศัพท์ โทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ในยุคต่อไปต่างมุ่งมาในเส้นทางนี้
ด้วยกันทั้งสิ้น รวมถึงอุตสาหกรรมประมวลผล เช่น การผลิตคอมพิวเตอร์ชิปก็เริ่มปรับสาย
การผลิตเข้าสู่ระดับนาโนชิปเช่นเดียวกัน ในด้านพลังงานซึ่งกำลังเป็นวิกฤติในหลายประเทศ
รวมทั้งประเทศไทยยังพอมีความหวังจากนาโนเทคโนโลยีด้านพลังงานแสงอาทิตย์และ
พลังงานลมอยู่บ้าง โดยบางบริษัทได้ประกาศตัวว่าสามารถทำเซลแสงอาทิตย์ที่เป็นระบบ
หมึกพิมพ์ทำให้อนาคตของเซลแสงอาทิตย์จะสามารถผลิตบนพื้นผิวที่ไม่จำกัด เช่น
ผนังอาคาร หลังคารถยนต์ และคาดหวังว่าพลังงานที่ผลิตได้จะสามารถทดแทนการใช้
น้ำมันในอนาคตได้อีกทาง ในวงการแฟชั่นและอัญมณีได้มีการประกาศถึงการเข้ามาของ
นาโนเทคโนโลยีว่า นอกจากเรื่องของเสื้อผ้่าแล้วเครื่องประดับที่สังเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี
นาโนก็กำลังเป็นที่น่าสนใจอย่างมาก เช่น บริษัทแห่งหนึ่งประกาศว่าสามารถสังเคราะห์เพชร
(ปลูกเพชร)ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรไม่สามารถจำแนกถึงแตกต่างระหว่างเพชรที่สังเคราะห์
กับเพชรแท้ได้ ข้อแตกต่างประการเดียวที่มีคือราคาเพชรที่สังเคราะ์ห์จะถูกกว่าเพชรแท้
2-3 เท่า เรากำลังมองเห็นความความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเปรียบ
เทียบกับเทคโนโลยีอื่นๆที่ผ่านมา ปัญหาที่ว่าเราจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหรือไม่
และถ้าต้องยอมรับแล้วขอบเขตควรจะอยู่แค่ไหน เพราะมีการแก้ปัญหาเ้ก่าได้ก็จะ้เกิดปัญหา
ใหม่ๆขึ้นมาเสมอ

ที่มา: www.nanotech-now.com

ไม่มีความคิดเห็น: