Beth Kelleyเขียนในบทความของ SPIE ว่ากองทุนวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NSF) ของอเมริกาได้ออกแถลงการว่าอุตสาหกรรมด้านนาโนเทคโนโลยีจะเติบโตถึง1ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี2015และจะมีการจ้างงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงถึง2ล้านตำแหน่งทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมควรตัองพิจารณาถึงแนวทางในด้านการจัดการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนาโนเทคโนโลยีและกำหนดมาตราการขั้นต่อไป การศึกษาที่ผ่านมาพบว่ายังขาดกระบวนการแบ่งปันข้อมูลและการสื่อสารกันในกลุ่มผู้บริโภค นักวิทยาศาสตร์และสถาบันของรัฐ ในบทความดังกล่าง Kelleyได้เน้นถึงข้อกังวลในสามประเด็นคือ
1.การขาดมาตราฐานข้อบังคับทางภาครัฐและอุตสาหกรรมในด้านการทดสอบและวิจัยผลกระทบจากวัสดุนาโน
2.การขาดนิยามที่ชัดเจนเกี่ยวกับว่าอะไรคือวัสดุนาโนบ้างและมันควรถูกปฏิบัติเช่นเดียวกับสารเคมีต่างๆหรือไม่
3.มีความสับสนเกี่ยวกับการสัมผัสที่เป็นอันตรายในวงจรชีิวิตของวัสดุนาโนอยู่
ซึ่งบทความดังกล่าวสรุปย่อถึงมาตราการต่างๆที่ออกโดยองค์กรภาครัฐเช่น European Food Safety Authority, U.S. Environmental Protection Agency (EPA) and the U.S. Food and Drug Administration (FDA) and NIOSH. โดยระบุว่าบางองค์กรเช่น The National Institute of Standards and Testing (NIST) กำลังลงทุนประมาณ 90.5 ล้านเหรีญและ the National Institutes of Health (NIH) 7 ล้านเหรีญ ซึ่งโดยภาพรวมจะมีการเพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยความเสี่ยงด้านนาโนเทคโนโลยีเป็นเงินประมาณ 88 ล้านเหรียญในปี 2010 โดยเพิ่มขึ้นอีก 16 ล้านเหรียญจากปี 2009 ณ วันนี้เรายังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัีดการความเสี่ยงที่เป็นกฎหมายข้อบังคับด้านนาโนเทคโนโลยีแต่มีบางหน่วยงานได้ออกแนวทางปฏิบัติไว้บ้างแล้วเช่น GoodNanoGuideของ ICON ซึ่งผู้ีที่สนใจสามารถเข้าชมได้ในเว็ปไซด์ดังกล่าว
ที่มา: www.safenano.org
วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น